กัญชาเป็นหนึ่งในพืชที่เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมากขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ประกอบอาหาร ตลอดจนมีการพัฒนาเรื่อยมาอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะในด้านการแพทย์ ทั้งนี้หลายคนอาจสงสัยว่ากัญชากับมะเร็งนั้นแท้จริงแล้วเกี่ยวข้องกันอย่างไร ช่วยรักษามะเร็งได้จริงหรือไม่ หากรักษาได้ ใครบ้างที่เหมาะกับการรักษามะเร็งด้วยกัญชาแบบนี้ หรือใครบ้างที่ไม่เหมาะ แล้วมีวิธีไหนในการรักษาบ้าง ซึ่งคำถามเหล่านี้ก็จะถูกรวบรวมมาตอบกันให้เคลียร์ในบทความนี้
กัญชา (Marijuana) เป็นพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L.subsp. indica โดยสารสำคัญของกัญชาคือ Delta-9-tetrahydrocannabinol และ cannabidiol หรือเรียกสั้นๆ ว่า THC กับ CBD ที่มีผลต่อร่างกายและจิตใจของผู้ใช้แตกต่างกันไป
กัญชามีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ใบเรียบอ้วน มีสีเขียวจัด แฉกใบมี 5-7 แฉก กิ่งก้านแตกเป็นสาขาเยอะ ลำต้นมีรูปร่างเป็นปล้อง สูงประมาณ 1-3 เมตร มียางมาก ออกดอกเป็นช่อ และจะเริ่มออกดอกเมื่ออายุประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
กัญชามีสรรพคุณและประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านความบันเทิง การเพิ่มคุณภาพชีวิต ที่สำคัญเลยก็คือประโยชน์ในด้านการแพทย์ ซึ่งในปัจจุบัน มีการวิจัยและพัฒนาให้อาการและโรคบางประเภทสามารถใช้กัญชาในกระบวนการรักษาได้ ดังต่อไปนี้
นอกจากนั้นกัญชายังมีแนวโน้มว่าจะช่วยในโรคอื่นๆ ได้อีกหลายโรค แต่ยังต้องรอหลักฐานการสนับสนุนเพิ่มเติม ได้แก่
โดยทั่วไปแล้วในทางการแพทย์จะมีวิธีการใช้กัญชาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและอาการที่ต้องการจะใช้รักษา
จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขชี้ว่า มีงานวิจัยบางชิ้นที่ให้การยอมรับว่ากัญชาสามารถใช้ควบคู่กับการรักษามะเร็งได้ แต่เป็นไปตามกระบวนการทางการแพทย์ภายใต้คำแนะนำหรือการตัดสินใจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพียงเท่านั้น และยังคงมีการวิจัยและค้นคว้าหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานมานี้มีการรายงานวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์ว่าการใช้กัญชาอาจมีประโยชน์ในการรักษามะเร็ง โดยสารตัวหนึ่งที่ค้นพบในกัญชาที่ชื่อว่า CBD อาจช่วยลดการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้
สาร Nabilone และ Dronabinol เป็นสารสังเคราะห์ที่เป็นอนุพันธ์ของสาร THC ที่มาจากกัญชาจะมีความสามารถบรรเทาอาการที่เป็นผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งด้วยวิธีต่างๆ ได้ เช่น การเข้ารับเคมีบำบัดจะทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนเกิดขึ้นได้ โดยกัญชาจะช่วยลดอาการคลื่นไส้และทำให้อาเจียนน้อยลงได้
ความอยากอาหารต่ำเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีโรคมะเร็งหรือเอดส์ ที่จะส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มีการวิจัยพบว่าสารสกัดจากกัญชาอาจช่วยเพิ่มความอยากอาหารให้กับผู้ป่วยเหล่านี้ได้ ด้วยผลของสาร THC ที่มีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางในร่างกาย ทำให้ผู้บริโภคมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นได้
การรักษาโรคมะเร็งอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดรุนแรงที่ต้องเผชิญอยู่เป็นประจำ อาการปวดนี้สามารถกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากการใช้ยาแก้ปวดสามารถสร้างผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่อการรักษาได้ ในขณะที่กัญชามีสาร THC ที่ช่วยลดอาการปวดแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรังได้ ทำให้การใช้กัญชาจึงเริ่มเป็นที่สนใจในฐานะของยาแก้ปวดทดแทนที่มีผลกระทบต่อการรักษาน้อยกว่ายาแก้ปวดเดิม
การใช้กัญชาเพื่อรักษามะเร็งยังต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากยังไม่มีการวิจัยที่เพียงพอเพื่อพิสูจน์ว่าการใช้กัญชาเพื่อรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง รวมไปถึงความเสี่ยงในการเสพติดและเวลาที่อาจจะเสียไปกับการรักษาที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าวิธีอื่น จึงมีบางสิ่งที่เกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการรักษามะเร็งที่ควรรู้เอาไว้ก่อนทำการรักษา
การใช้กัญชาควบคู่กับรักษามะเร็งเหมาะสมกับกลุ่มผู้ที่มีอาการเจ็บปวดจากมะเร็ง และการรักษาแบบดั้งเดิมไม่สามารถบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่กัญชาสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและอาการคลื่นไส้ที่เกิดจากการทำการรักษามะเร็งได้
อย่างไรก็ตามการใช้กัญชาควบคู่กับการรักษามะเร็งก็ควรได้รับการดูแล และคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยอย่างละเอียด โดยที่ผู้ป่วยควรเริ่มใช้กัญชาในปริมาณที่น้อยที่สุด หากไม่มีผลก็ควรปรับเพิ่มเป็นระยะอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีผู้ดูแลอยู่เมื่อเริ่มใช้ หากเกิดผลข้างเคียง ควรรีบพบแพทย์ทันที
สำหรับผู้ที่มีประวัติการใช้ยาประเภทอื่นๆ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้กัญชา เนื่องจากกัญชาอาจส่งผลต่อยาบางชนิดที่ผู้ป่วยใช้เป็นประจำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้หากใช้ร่วมกัน
ถึงแม้ว่าโดยรวมการรักษาด้วยกัญชาจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่อาจจะได้รับผลกระทบหรือผลข้างเคียงได้ ซึ่งแพทย์อาจจะไม่แนะนำให้ใช้กัญชาหรืออาจอนุญาตในกรณีที่จำเป็นจริงๆ โดยคนเหล่านี้ได้แก่
การใช้กัญชากับการรักษามะเร็งนั้นยังคงเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องการงานวิจัยสนับสนุนยืนยันเพิ่มว่ากัญชารักษามะเร็งได้จริงหรือไม่ ซึ่งการใช้ประโยชน์จากกัญชาไปกับการแพทย์นั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มตัวเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้ป่วยเดิมแล้ว ยังเปิดโอกาสให้กัญชาถูกยอมรับได้ง่ายมากขึ้นในสังคมอีกด้วย
ซึ่งนอกจากกัญชาจะมีประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ในปัจจุบันกัญชายังถูกนำมาพัฒนาเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการบริโภคเชิงสันทนาการอีกด้วย ไม่ว่าจะผ่านอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ขนม อย่างในร้าน four twenty ที่มีสินค้าที่นำกัญชาคุณภาพดีมาเป็นวัตถุดิบเสริม ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์และสัมผัสใหม่ๆ ให้กับอาหารเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย