ควรรู้ก่อนใช้กัญชา อาการเมากัญชาเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมวิธีแก้

ควรรู้ก่อนใช้กัญชา อาการเมากัญชาเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมวิธีแก้

August 21, 2023

หลังจากกัญชาสามารถใช้ได้อย่างถูกกฏหมาย ทำให้ปัจจุบันกัญชากลายเป็นทางเลือกในการรักษามากขึ้น แม้แต่ร้านอาหาร รวมไปถึงเครื่องดื่มก็ไม่หวั่นที่จะตอบรับกระแสกัญชาด้วยการผลิตเมนูกัญชาวางจำหน่ายกันอย่างมากมาย ถึงแม้ว่ากัญชาอาจจะมีข้อดีอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ควรที่จะลืมผลข้างเคียงของมันด้วยเช่นกัน เพราะกัญชามีสาร THC ที่จะทำให้เกิดอาการเมาและแพ้ได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จะพาไปไขข้อสงสัยว่า อาการเมากัญชาคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีวิธีแก้เมากัญชาเบื้องต้นอย่างไร เพื่อให้ท่านได้มีความรู้ก่อนใช้กัญชา ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย และสามารถใช้กัญชาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

กัญชามีประโยชน์อย่างไร และมีผลข้างเคียงอย่างไร ทำไมถึงยังมีการใช้แม้จะทำให้เมา

กัญชามีประโยชน์อย่างไร และมีผลข้างเคียงอย่างไร ทำไมถึงยังมีการใช้แม้จะทำให้เมา

กัญชา คือพืชล้มลุกที่มีลักษณะคล้ายต้นหญ้า จะมีสารเคมีอยู่ในใบกัญชา ชื่อว่า Cannabinoids ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์สำคัญ คือ สาร THC และสาร CBD แม้จะส่งผลทำให้เกิดอาการเมากัญชา แต่ปัจจุบันกัญชาได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะนำไปใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคต่างๆ รวมถึงกลายเป็นส่วนประกอบของอาหาร และเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม ควรใช้อย่างเหมาะสม  เพราะกัญชานั้นมีทั้งประโยชน์และผลข้างเคียง 

ประโยชน์ของกัญชา

กัญชาจะมีสารที่ออกฤทธิ์สำคัญด้วยกัน 2 ชนิด ก็คือ คือ THC และ CBD ซึ่งประโยชน์ของกัญชามีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

  • สาร THC : มีฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาท ต่อต้านอาการซึมเศร้า ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับง่าย และช่วยลดอาการตึงเครียดได้ดี
  • สาร CBD : บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง ลดการอักเสบของแผล ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ลดอาการชักเกร็ง และยังมีประโยชน์ที่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย

ผลข้างเคียงของกัญชา

เมากัญชามีอาการอย่างไร? อาการตอบสนองของแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันออกไป สามารถสังเกตได้ดังนี้

  • อาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน
  • รู้สึกปากแห้ง คอแห้ง
  • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก
  • มีอารมณ์แปรปรวน รู้สึกกระวนกระวาย วิตกกังวล และเห็นภาพหลอน
อาการเมากัญชา คืออะไร

อาการเมากัญชา คืออะไร

อาการเมากัญชา คืออาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้ว่ากัญชาจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะใช้ได้ เนื่องจากกัญชามีสาร THC ที่ออกฤทธิ์ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง หรือมีฤทธิ์ต่อสมอง ส่งผลทำให้ร่างกาย อารมณ์ และจิตใจเปลี่ยนแปลงไป ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มต้นรับประทานเมนูกัญชาต้องเริ่มต้นด้วยปริมาณที่น้อย หรือแค่เพียงครึ่งใบถึง 1 ใบต่อวัน

อาการเมากัญชา เกิดขึ้นได้อย่างไร

อาการเมากัญชา เกิดขึ้นได้อย่างไร

 อาการเมากัญชา เกิดจากสารประกอบในกัญชาและปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งสารประกอบในกัญชาที่ส่งผลต่ออาการเมากัญชาคือ THC โดยสารที่อยู่ในพืชกัญชาชนิดนี้จะส่งผลต่อการทำงานของสมองบางส่วน อาทิ สมองส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับความจำ การเรียนรู้ จึงทำให้ลักษณะอาการในแต่คนมักจะพบได้ค่อนข้างหลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละคน

วิธีสังเกตอาการเมากัญชา ดูยังไง

วิธีสังเกตอาการเมากัญชา ดูยังไง

วิธีการสังเกตอาการเมากัญชา หลังจากการใช้กัญชาประมาณ 1-3 ชั่วโมง จะพบอาการเมากัญชาทั่วๆ ไป ดังนี้

  • กระบวนการเกี่ยวกับการรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเปลี่ยนไป อารมณ์แปรปรวน และหัวใจเต้นเร็ว
  • เกิดปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำ ไม่มีสมาธิ เห็นภาพหลอน
  • คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ มึนเมา ปากแห้ง คอแห้ง ตาแดง ตาแห้ง และรู้สึกอยากอาหาร
อาการเมากัญชา จะอยู่นานเท่าไร

อาการเมากัญชา จะอยู่นานเท่าไร

อาการเมากัญชา จะมีระยะเวลาการแสดงอาการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ ปริมาณการใช้กัญชา ปริมาณสาร THC ที่ได้รับ และสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดคือวิธีการใช้กัญชา

  • ใช้กัญชาด้วยวิธีการสูบ มักจะพบอาการที่ค่อนข้างรุนแรงช่วง 10 ถึง 30 นาทีแรก และหลังจากนั้น 2-3 ชั่วโมงอาการก็จะบรรเทาลง
  • ใช้กัญชาด้วยวิธีรับประทาน อาการเมากัญชาจะเกิดช่วง 30 ถึง 90 นาที และค่อยๆ รุนแรงขึ้น เมื่อผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง อาการค่อยๆ ดีขึ้น และประมาณ 24 ชั่วโมงจึงจะกลับสู่ภาวะปกติได้ 
แก้อาการเมากัญชา ทำได้ยังไง

แก้อาการเมากัญชา ทำได้ยังไง

เมากัญชาแก้อย่างไร หากมีอาการเมากัญชาที่ไม่รุนแรงสามารถแก้อาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเองง่ายๆ ดังนี้

  • ปากแห้งคอแห้ง อาการเมากัญชานี้มีวิธีแก้ คือ ต้องรีบดื่มน้ำตามในปริมาณมาก หรือดื่มน้ำมะนาวผสมกับน้ำผึ้ง
  • อาการมึนเมา บีบมะนาวครึ่งลูกแล้วผสมกับเกลือปลายช้อน หรือเคี้ยวพริกไทยเพื่อแก้อาการมึนเมา
  • วิธีแก้เมากัญชาเมื่อรู้สึกวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน จะต้องดื่มน้ำขิง หรือชงรางจืด ดื่มอย่างน้อยวันละ 3 เวลา เพื่อช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน แต่หากมีอาการหนักแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ผู้ที่ไม่ควรใช้กัญชา หลีกเลี่ยงอาการเมาและแพ้

ผู้ที่ไม่ควรใช้กัญชา หลีกเลี่ยงอาการเมาและแพ้

กัญชา แม้เป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีคำแนะนำจากหลายหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้อง ว่ากัญชาไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน ซึ่งจะมีคนบางกลุ่มที่ไม่ควรใช้กัญชา และบางกลุ่มควรระมัดระวังการใช้กัญชา เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเมากัญชาและแพ้กัญชา  ได้แก่

ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

สำหรับเด็กเยาวชน ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือเด็กเล็ก นอกจากจะมีความผิดทางกฎหมายแล้ว อาจจะทำให้เด็กเกิดภาวะเสพติดและเมากัญชาได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากสาร THC มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทจะทำให้ส่งผลกระทบต่อสมองของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการที่ล่าช้า เสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตเภท ส่งผลกับจิตใจและอารมณ์ของเด็ก ที่สำคัญอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว

สตรีมีครรภ์ และสตรีที่ต้องให้นมบุตร

สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสตรีที่ต้องให้นมบุตรไม่ควรใช้กัญชาเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชา สูดดมควันกัญชา เนื่องจากสาร THC ในกัญชา จะไปตกค้างอยู่ในน้ำนมของแม่นานถึง 6 สัปดาห์ สำหรับหญิงให้นมบุตรกัญชาก็จะไปขัดขวางการทำงานของระบบสมองและสติปัญญาของทารก ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ล่าช้า ส่วนเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์จะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ คลอดออกมาไม่สมบูรณ์ น้ำหนักน้อย อาจเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด หรือทำให้เด็กเสียชีวิตได้ รวมไปถึงผู้ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ ก็อาจจะส่งผลทำให้ท้องนอกมดลูก หรือไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

ผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุ ไม่ควรใช้กัญชา เนื่องจากกัญชาจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว และความดันโลหิตผิดปกติ มีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีอาการหัวใจวาย หรือเสียชีวิตแบบเฉียบพลันได้ และนอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่ออาการทางจิต อาจจะทำให้เกิดการทำร้ายตัวเอง รวมไปถึงยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ส่งผลให้ผู้สูงอายุไม่สามารถทรงตัว ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

ผู้ที่เคยแพ้กัญชามาก่อน

หากผู้ใดที่เคยมีอาการแพ้กัญชามาก่อน ควรแก้อาการเมากัญชาด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้กัญชา และอาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชา เนื่องจากจะทำให้เกิดอาการแพ้กัญชาเกิดขึ้นอีก และอาจจะทำให้ส่งผลอันตรายต่อชีวิตได้

ผู้ที่ใช้ยาสลายลิ่มเลือด (ยาวาร์ฟาริน)

ผู้ที่ใช้ยาสลายลิ่มเลือด หรือยาวาร์ฟารินเป็นประจำจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้กัญชา เนื่องจากกัญชาจะส่งผลทำให้ยาสลายลิ่มเลือดหรือยาวาร์ฟารินออกฤทธิ์มากขึ้น หรือเพิ่มขนาดของยา ส่งผลให้การแข็งตัวของเลือดลดลง ปริมาณเลือดมาก และจะทำให้เลือดออกง่ายยิ่งขึ้น จนอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้กัญชา

คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้กัญชา

คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์  ซึ่งจะมีการระบุไว้ด้วยกันจำนวน 10 ข้อ โดยมีการอ้างอิงมาจากคำแนะนำของการใช้กัญชาทางการแพทย์ ประกอบไปด้วย

  • รักษามาตรฐานทางการแพทย์ก่อน
  • ไม่ควรใช้กัญชาหากมีอายุน้อย แนะนำให้ใช้กัญชาเมื่อมีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป
  • การใช้กัญชาต้องใช้ในอัตราส่วน CBD ที่สูงกว่า THC 
  • ห้ามใช้กัญชาสังเคราะห์
  • ห้ามใช้กัญชาแบบสูบเผาไหม้
  • หากสูบกัญชา ห้ามอัดควันเข้าปอดแล้วกั้นไว้เด็ดขาด
  • ควรใช้กัญชาอย่างระมัดระวัง ไม่ควรใช้บ่อยและเข้มข้นสูงเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงได้
  • ขณะใช้กัญชาควรงดขับรถ งดใช้เครื่องจักรอย่างน้อยประมาณ 6 ชั่วโมง
  • งดใช้กัญชาในผู้ที่มีประวัติครอบครัวที่มีอาการจิตเวชและผู้ที่ตั้งครรภ์
  • หลีกเลี่ยงการใช้กัญชา หากมีหลายปัจจัยเสี่ยง

สำหรับข้อควรระวังการใช้กัญชาอื่นๆ ดังนี้

  • การใช้กัญชา ที่มีสาร THC เป็นส่วนประกอบ ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อระบบสมองที่กำลังพัฒนาได้ ดังนั้นผู้ที่สั่งใช้กัญชาก็ควรวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนสั่งทุกครั้ง
  • ผู้ที่เป็นโรคตับ
  • ผู้ป่วยที่มีอาการติดสารเสพติด รวมไปถึงติดสารนิโคติน หรือผู้ป่วยที่ดื่มสุราอย่างหนัก
  • ผู้ที่ใช้กลุ่มยาอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มยา opioids และยาที่มีฤทธิ์กล่อมประสาท เช่น benzodiazepines
  • ผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยเด็ก หากมีการใช้ ควรเริ่มต้นจากการใช้ปริมาณน้อย และปรับขึ้นอย่างช้าๆ

สรุป

จะเห็นได้ว่า อาการเมากัญชา เกิดจากสาร THC และปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เรียกได้ว่ากลายมาเป็นภัยร้ายใหม่ที่ทุกคนควรระมัดระวังกันมากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรใช้กัญชาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป เพื่อที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพ้ และอาการเมากัญชา และที่สำคัญ ทุกครั้งที่ใช้กัญชาจะต้องหมั่นสังเกตอาการของตนเองหลังใช้กัญชา หากท่านรู้สึกว่ามีอาการแพ้แต่ยังไม่รุนแรง ควรรีบแก้อาการเบื้องต้น แต่หากพบว่ามีอาการรุนแรงจะต้องรีบพบแพทย์ทันที สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้กัญชา แต่อยากจะลองใช้กัญชา ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ของ fourtwenty จำหน่ายกัญชาคุณภาพพรีเมี่ยม พร้อมบอกปริมาณกัญชา และสารที่มีในผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน สามารถคำนวณได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอรับประทานในปริมาณมากเกินไป สามารถไว้วางใจเลือกผลิตภัณฑ์กัญชาได้เลย เพราะคัดสรรเฉพาะแต่สิ่งดีๆ ให้ลูกค้า

Designed by CARE Digital
Copyright 2024 © Fourtwenty - All rights reserved.
crossmenu