ปกบทความอาการแพ้กัญชา

อาการแพ้กัญชา อย่านิ่งนอนใจ อันตรายถึงชีวิต มาดูวิธีแก้แพ้เบื้องต้น

June 9, 2023

กัญชา คือ พืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis และมีสารสำคัญสองชนิดที่เรียกว่า THC (Tetrahydrocannabinol) และ CBD (Cannabidiol) ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทของมนุษย์ เมื่อนำมาบริโภค รสชาติของกัญชาอาจแตกต่างไปในแต่ละสายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่มีกลิ่น และรสชาติหวานหอมเบาๆ

การบริโภคกัญชามีประโยชน์ คือ ช่วยในการผ่อนคลายร่างกาย และจิตใจ เพิ่มคุณภาพของสุขภาพจิต ลดอาการเครียด และซึมเศร้า บรรเทาอาการปวดเมื่อยต่างๆ และเพิ่มความสนุกสนานในกิจกรรมนันทนาการต่างๆ

อย่างไรก็ตาม การตอบสนองต่อกัญชาสามารถเกิดขึ้นได้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจมีอาการแพ้กัญชา ซึ่งอาการแพ้กัญชาอาจเป็นได้ทั้งแบบไม่รุนแรง และรุนแรง หากปล่อยไว้อาจเกิดอันตราย ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในบทความนี้ four twenty จึงอยากชวนมาดูกันว่าอาการแพ้ที่ควรสังเกตมีอะไรบ้าง และหากพบอาการแพ้แล้วควรต้องทำอย่างไรต่อไป

แพ้กัญชา เกิดจาก

สาเหตุการแพ้กัญชาเกิดจากอะไร

การแพ้กัญชาเกิดจากการตอบสนองที่ผิดปกติของร่างกายต่อสารที่มีอยู่ในกัญชา ซึ่งในทุกวันนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดนักว่าสารอะไรบ้างที่สามารถก่อให้เกิดการแพ้กัญชา แต่โดยทั่วไปสารเหล่านี้ มักมีการทำงานและอาการใกล้เคียงกับคนที่แพ้เกสรต้นไม้ ดอกไม้ หรือพืชอื่นๆ การที่บางคนก็แพ้ หรือบางคนก็ไม่แพ้กัญชาอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ได้หลายอย่าง เช่น

  • ความไวต่อสารต่างๆ บางคนอาจมีความไวต่อสารที่ก่ออาการแพ้กัญชามากกว่าคนอื่น ทำให้มีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้สูงขึ้น
  • ประวัติแพ้สารอื่น บางคนที่เคยแพ้สารอื่นมาก่อน เช่น สารเจือปนในอาหาร หรือยา อาจมีโอกาสแพ้กัญชามากขึ้น
  • ความสมบูรณ์ของระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง อาจมีความสามารถในการจัดการกับสารต่างๆ ในกัญชาได้ดี ทำให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่าคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
แพ้กัญชา อาการ

สังเกตอาการแพ้กัญชาเป็นอย่างไร

อาการแพ้กัญชาแตกต่างกันไปในแต่ละคน เนื่องจากความไวต่อสารเคมีในกัญชา และระดับการตอบสนองของร่างกายที่แตกต่างกัน บางคนอาจมีระดับความแพ้รุนแรง ในขณะที่บางคนอาจมีระดับความแพ้ที่ต่ำ โดยสามารถแบ่งออกเป็นอาการแพ้กัญชาแบบไม่รุนแรง และอาการแพ้กัญชาอย่างรุนแรง โดยผู้ที่สงสัยว่าตัวเอง หรือคนใกล้ตัวแพ้กัญชาหรือไม่ ควรสังเกตอาการทุกครั้งที่ใช้กัญชา

อาการแพ้กัญชาแบบไม่รุนแรง

อาการแพ้กัญชาแบบไม่รุนแรง มักเป็นอาการแรกๆ ที่ปรากฎขึ้น ควรสังเกตตนเองว่าอาการเหล่านี้ เกิดขึ้นหลังการสูบ หรือใช้กัญชาไปแล้วหรือไม่ เพื่อแก้ไขก่อนเกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้น โดยอาการแพ้กัญชาแบบไม่รุนแรง อาจประกอบไปด้วยอาการต่อไปนี้

  • ง่วงนอนมากจนผิดปกติ
  • ปากแห้งแตก คอแห้งขาดน้ำ
  • สูบกัญชาแล้วอ้วก อาเจียน หรือเวียนหัว
  • ความคล่องตัวต่ำ
  • ผื่นแพ้บริเวณผิวหนัง ปรากฏผื่นคันที่ผิวหนังหลังการใช้กัญชา
  • เกิดความไม่สบายภายในท้อง ปวดท้อง หรือคลื่นไส้
  • ตาแดง หรืออาจมีอาการตาพร่ามัว

อาการแพ้กัญชารุนแรง

อาการแพ้กัญชาอย่างรุนแรง สามารถเกิดได้ในกลุ่มที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง หรือกลุ่มที่มีอาการแพ้ไม่มาก แต่มีการใช้กัญชาไปในปริมาณมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการสูบ หรือการกินเข้าไปก็ตาม โดยอาการระดับนี้ หากปล่อยไว้อาจเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากสังเกตเห็นอาการเหล่านี้หลังการใช้กัญชาแล้ว ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที เพื่อเข้ารับการดูแล และรักษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างเหมาะสม และปลอดภัยมากที่สุด โดยอาการแพ้กัญชาแบบรุนแรง อาจประกอบไปด้วยอาการต่อไปนี้

  • เกิดความรู้สึกวิตกกังวล หรือสับสน
  • อาการผิดปกติของทางเดินหายใจ เช่น หายใจลำบาก หรือติดขัด เจ็บหน้าอก เหมือนมีอุปสรรคในการหายใจ
  • อาการหูแว่ว เห็นภาพหลอน อารมณ์แปรปรวน
  • อาการหายใจเหนื่อยหอบ มีอาการหายใจเหนื่อยขึ้น รู้สึกหอบ หรือรู้สึกลำบากระหว่างหายใจ
  • อาการบวมบริเวณใบหน้า หรือลิ้น หลังการใช้กัญชา ทำให้ลิ้นแข็งพูดไม่ชัด
  • อาการปวดท้องรุนแรง หรืออาจมีอาการอาเจียน และถ่ายเหลว
  • อาการเหงื่อออกมากหลังใช้กัญชา
  • อาจมีอาการช็อกแบบรุนแรง ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายต่อชีวิต
แพ้กัญชา วิธีแก้

วิธีแก้อาการแพ้กัญชาเบื้องต้น

เมื่อเริ่มมีอาการแพ้กัญชา หรือสงสัยว่าเกิดอาการแพ้ ให้เริ่มสังเกตอาการว่ามีการแพ้อย่างรุนแรงหรือไม่ หากมีอาการแพ้กัญชาอย่างรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนคนที่มีอาการแพ้ไม่รุนแรงอาจเริ่มทำตามวิธีแก้อาการแพ้กัญชาเบื้องต้น ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • หยุดการใช้กัญชาทันที หากมีอาการแพ้กัญชา หรือสงสัยว่าเกิดการแพ้ นอกจากนี้ ควรเลือกอย่างอื่นที่ไม่ใช่กัญชาเป็นทางเลือกในการผ่อนคลาย หรือบำรุงสุขภาพ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ รักษาความชื้นในร่างกายโดยดื่มน้ำให้มากขึ้น และเพียงพอตลอดทั้งวัน เพื่อช่วยลดอาการแพ้ และความรุนแรงของอาการที่อาจเกิดขึ้นได้
  • พักผ่อนเพียงพอ และให้ร่างกายได้ลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ การหายใจลึกๆ หรือการฟังเพลงผ่อนคลาย เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว และลดอาการแพ้
  • ปรึกษาแพทย์ หากอาการแพ้กัญชาไม่ดีขึ้น หรือมีความรุนแรงมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัย และการรักษาเพิ่มเติม เช่น การใช้ยารักษาอาการแพ้
วิธีใช้กัญชาอย่างปลอดภัย

กินกัญชาอย่างถูกต้อง ปลอดภัย

การใช้กัญชาอย่างถูกต้อง และปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากกัญชา และลดความเสี่ยงของผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้น การกินกัญชาควรปฏิบัติตามแนวทางและแนะนำของกรมอนามัย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีขั้นตอนและแนวทางดังนี้

แนะนำการกินกัญชาที่ถูกต้อง

การกินกัญชาที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงการแพ้ หรือลดความรุนแรงของอาการแพ้กัญชาให้เบาบางลงได้ ทำให้สามารถใช้กัญชาเพื่อผ่อนคลายร่างกาย และจิตใจได้อย่างปลอดภัย

ข้อควรทำ

การใช้กัญชามีสิ่งที่ควรทำอยู่หลายข้อ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้กัญชาให้มากที่สุด ดังนี้

  • ทำความรู้จักและเข้าใจสารสำคัญที่มีอยู่ในกัญชา เช่น THC และ CBD
  • เลือกสินค้ากัญชาที่มีคุณภาพสูง และมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
  • ทดลองใช้ในปริมาณที่น้อย เมื่อเริ่มต้นใช้กัญชา หรือสูบกัญชา
  • ระวังปริมาณการใช้กัญหาไม่ให้เกินเกณฑ์ที่ร่างกายสามารถรับได้
  • ควบคุมอารมณ์ และสภาพจิตใจให้สงบ และผ่อนคลายเมื่อใช้กัญชา หากรู้สึกไม่สบาย หรือมีอาการที่ไม่พึงประสงค์ ควรหยุดการใช้และปรึกษาแพทย์ทันที

ข้อควรระวัง

การใช้กัญชามีข้อควรระวังอยู่หลายข้อ ที่ควรทราบเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดจากการใช้กัญชาให้มากที่สุด ดังนี้

  • หากมีประวัติโรค หรือประวัติสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้กัญชา เพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ และปฎิกิริยาไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดจากการใช้กัญชาคู่กับยารักษาโรคต่างๆ
  • หากมีประวัติการแพ้อาหาร หรือสิ่งอื่นๆ ควรเริ่มใช้กัญชาอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งควรใช้ในขณะที่มีคนใกล้ตัวคอยช่วยสังเกตอาการ และให้ความช่วยเหลือได้
  • การใช้กัญชาอาจส่งผลต่อการทำงาน และการขับขี่ จึงต้องหลีกเลี่ยงการใช้กัญชาก่อนทำงานที่ต้องใช้ความตั้งใจ หรือก่อนขับรถ
  • ระวังไม่ให้กัญชาเข้าถึงได้โดยเด็ก และสัตว์เลี้ยง
  • หากคุณกำลังมีอาการซึมเศร้า หรือมีสภาพจิตใจที่ไม่ดี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้กัญชา เนื่องจากอาจเสพติดได้ง่ายขึ้น และอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต
  • การใช้กัญชาในปริมาณที่มาก หรือบ่อยเกินไปอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ ควรเริ่มต้นด้วยปริมาณที่น้อย และรักษาระดับปริมาณการใช้อย่างเหมาะสม

ปริมาณกัญชาที่ปลอดภัย

กัญชามีขนาดการใช้งานที่ปลอดภัยอยู่ หากใช้งานเกินปริมาณเหล่านี้ไป อาการแพ้ และผลข้างเคียงต่างๆ อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย จนอาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้ได้ ตามประกาศกรมอนามัย เรื่องการนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 ได้ให้คำแนะนำการใช้ปริมาณกัญชาในเมนูอาหารไว้ดังนี้

  • อาหารทอด น้ำหนักต่อเสิร์ฟ 51 กรัม ใช้ใบกัญชา 1-2 ใบสด
  • กรณีทำไข่เจียว หรือเมนูที่ซึมซับน้ำมันเข้าไปในอาหารได้ดี แนะนำให้ใช้ครึ่งใบ หรือ 1 ใบสด เนื่องจากสาร THC และ CBD ละลายได้ดีในน้ำมัน
  • อาหารผัด น้ำหนักต่อเสิร์ฟ 74 กรัม ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
  • อาหารแกง น้ำหนักต่อเสิร์ฟ 614 กรัม ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
  • อาหารต้ม น้ำหนักต่อเสิร์ฟ 614 กรัม ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
  • ผสมในเครื่องดื่ม ขนาด 200 มิลลิลิตร ใช้ใบกัญชา 1 ใบสด
ผู้ที่ห้ามใช้กัญชา

ผู้ที่ไม่ควรหรือห้ามบริโภคกัญชา

ในวันที่ 16 มิถุนายน 2565 กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้กัญชา และสารสกัดจากกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม เพราะกัญชาไม่ได้สามารถใช้ได้กับทุกคนได้โดยมีผลแบบเดียวกัน จึงทำให้มีคนบางกลุ่มที่อาจได้รับความเสี่ยงจากการใช้งานกัญชามากกว่า โดยผู้ที่ไม่ควร หรือห้ามใช้กัญชา มีดังนี้

  • ผู้ที่ยังมีอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ห้ามใช้ และห้ามครอบครอง
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้กัญชา
  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร และผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ในอนาคตอันใกล้
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ และหลอดเลือดรุนแรง หรือผู้มีโรคที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้ทั้งหลาย
  • ผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตเวชรวมถึงผู้ที่มีประวัติการผิดปกติทางจิตเวช
  • ผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟาริน หรือยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ เพราะกัญชาอาจไปทำปฏิกิริยาให้ยาเหล่านี้รุนแรงมากขึ้นจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ผู้ที่ควรระวังในการใช้กัญชา

ผู้ที่ควรระวังในการใช้กัญชา

นอกจากกลุ่มที่ห้ามใช้แล้ว ยังมีบางกลุ่มที่สามารถใช้กัญชาได้ แต่ควรใช้กัญชาอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายได้ โดยผู้ที่ควรระวังการใช้กัญชา มีดังนี้

  • ผู้มีอายุสูงวัย
  • ผู้ที่มีปัญหาตับ หรือไตบกพร่อง
  • ผู้ที่กำลังใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยารักษาอาการจิตเวชต่างๆ

การแพ้กัญชาสามารถแสดงอาการที่ไม่รุนแรง หรือรุนแรงก็ได้ การแพ้กัญชาอาจประกอบไปด้วยอาการผื่นแพ้ผิวหนัง หรืออาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น จาม น้ำมูกไหล หายใจเหนื่อย บางคนอาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีการบริโภคกัญชาที่เข้มข้นมากขึ้น สาเหตุของการแพ้กัญชายังไม่แน่ชัด อาจเกิดจากตัวสารสำคัญในกัญชาอย่าง THC (Tetrahydrocannabinol) หรือสารอื่นๆ ที่อยู่ในกัญชา ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการตอบสนองผิดปกติ

อาการแพ้กัญชาแตกต่างกันไปในแต่ละคน เนื่องจากความไวต่อสารเคมีในกัญชา และระดับการตอบสนองของร่างกายที่แตกต่างกัน เมื่อมีอาการแพ้กัญชาที่รุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อทำการวินิจฉัย และการรักษาที่เหมาะสม การรักษาอาการแพ้กัญชาอาจรวมถึงการให้ยาต้านการแพ้ หรืออื่นๆ เช่น เจล และครีมทาผิว หรือการรักษาอาการแบบอื่นที่เกี่ยวข้อง หากอาการแพ้ไม่รุนแรงอาจเริ่มดูแลตัวเองด้วยวิธีแก้แพ้กัญชาเบื้องต้นอย่าง การดื่มน้ำให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สงบ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ และพักผ่อนรอดูอาการต่อไป

การบริโภคกัญชาให้ถูกต้อง และปลอดภัย ควรปฏิบัติตามข้อกำหนด และคำแนะนำที่ให้ไว้โดยกรมอนามัย เพราะการใช้กัญชาอย่างรอบคอบ และรู้เท่าทัน ทำให้ได้ประโยชน์ และลดความเสี่ยงต่อร่างกาย และจิตใจของเราเอง

Designed by CARE Digital
Copyright 2024 © Fourtwenty - All rights reserved.
crossmenu